วัดบุพพาราม

C360_2013-09-18-14-40-14-758

นอกจากวัดชัยมงคลที่ชาวบ้านชอบไปทำบุญกันเยอะ ตามความเชื่อที่มาจากชื่อวัดแล้ว อีกวัดซึ่งไม่ห่างไกลกันมากจากนั้นคือวัดบุพพาราม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณควรต้องแวะไปชมความงามกันซักครั้ง

C360_2013-09-18-14-37-03-538

วัดบุพพาราม หรือ วัดเม็ง (วัดอุปปาใน) เป็นวัดเก่าแก่ซึ่งเป็นวัดพี่วัดน้องกับวัดชัยมงคล (วัดอุปานอก) กันครับ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2040 ในสมัยพระเมืองแก้ว (กษัตริย์องค์ที่ 13) แห่งราชวงศ์มังราย ในบริเวณพระราชอุทยานเก่าของพระเจ้าติโลกราช ภายหลังได้รับการบูรณะในสมัย เจ้าหลวงธรรมลังกา เมื่อปี พ.ศ. 2362 โดยโปรดฯ ให้สร้างพระวิหาร (หลังเล็ก) ที่เป็นเครื่องไม้ศิลปะล้านนา อีกทั้งยังเป็นวัดซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระมหาสังฆราชปุสสเทวะอีกด้วย

C360_2013-09-18-14-41-05-481

ศาสนสถานและปูชนียวัตถุวัดบุพพาราม อันสำคัญเด่นๆ ในวัด ก็จะประกอบไปด้วยพระวิหารเล็ก เป็นพระวิหารไม้ศิลปะล้านนาที่เก่าแก่ เจ้าหลวงธรรมลังกา โปรดฯ ให้สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2362 เป็นพระวิหารเก่าที่งามด้วยฝีมือเชิงช่างชั้นสูง หน้าบันงดงามด้วยไม้แกะสลักประดับด้วยกระจกสี ภายในเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธไชยลาภประสิทธิโชค พระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นประธาน

C360_2013-09-18-14-40-47-037

พระวิหารหลังใหญ่ เป็นพระวิหารก่ออิฐถือปูน ศิลปะล้านนาผสมพม่า สร้างในสมัย พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงษ์ หน้าบันเป็นไม้แกะสลักศิลปะพม่า ภายในมีภาพจิตรกรรมเรื่องราวในพุทธประวัติ และเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหาปฏิมากร เป็นประธาน ซึ่งสร้างในสมัยพระเมืองแก้ว

C360_2013-09-18-14-45-17-245

พระธาตุเจดีย์ เป็นเจดีย์ศิลปะพม่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ องค์เดิมนั้นสร้างขึ้นในสมัยพระเมืองแก้ว เมื่อปี พ.ศ.2053 ต่อมาภายหลังได้มีการบูรณะให้ใหญ่กว่าเดิม โดย หลวงโยนวิจิตร (หม่อนตะก่า อุปโยคิน) ได้บูรณะรูปทรงใหม่เป็นเจดีย์ศิลปะพม่า เมื่อปี พ.ศ.2441

C360_2013-09-18-14-47-17-781

C360_2013-09-18-14-43-21-722

บ่อน้ำทิพย์ เป็นบ่อน้ำดั้งเดิมที่มีมาก่อนการสร้างวัด เป็นบ่อน้ำในพระราชอุทยานของ พระเจ้าติโลกราช เมื่อครั้งพระเมืองแก้ว โปรดฯ ให้สร้างวัดขึ้น ได้ใช้น้ำในบ่อนี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ในการสรงพระบรมสารีริกธาตุ ปัจจุบันยังคงใช้ในมงคลพิธีต่างๆ และใช้เป็นน้ำสรงพระบรมธาตุอีกด้วย

C360_2013-09-18-14-38-50-686

หอพระมณเฑียรธรรม เป็นมณฑปปราสาททรงจัตุรมุข 2 ชั้น สร้างขึ้นในยุคปัจจุบัน ชั้นล่างจัดเป็นห้องสมุดศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนา ผนังมีงานจิตรกรรมเรื่องราวในพุทธประวัติ ชั้นบนเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไม้สักนามว่า พระพุทธนเรศร์สักชัยไพรีพินาศ

C360_2013-09-18-14-49-41-801

C360_2013-09-18-14-52-27-246

วัดบุพพาราม หากันไม่ยากครับ ตั้งพิกัดตรงถนนท่าแพ ในตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่กันนี่แหละ ขับรถมาจากสะพานนวรัฐ วัดจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ก่อนถึงประตูท่าแพ และพอเจอป้ายวัด ก็จัดการเลี้ยวรถกันเข้าไปเลยตามสะดวก

ที่เหลือจากนั้น ก็ไปชมความงามของวัดกัน และไปทำบุญไว้พระกันซะ เผื่องวดหน้าจะได้ซื้อหวยกันถูก อิอิ