วัดกู่คำ

C360_2013-10-07-11-14-45-214

ผมเข้าใจอารมณ์ของการรออะไรซักอย่างนะ ว่ามันโคตรแสนจะน่าหงุดหงิดมากๆ ยิ่งเรารอแบบไม่มีเวลากำหนด หรือระหว่างรอไม่มีอะไรให้ทำแก้เซ็ง นั่นแหละ สภาพตอนนั้นไม่ต่างอะไรกันกับในนรก

แม้จะไม่เคยไปท่องดินแดนดังกล่าว แต่คาดว่าน่าจะทรมานเหมือนๆ กัน (อาศัยอ่านเอาจากหนังสือธรรมะ พอให้ตัวเองได้กลัวการทำบาป) ฉะนั้น การหาอะไรทำในระหว่างรอ เพื่อให้หายเซ็ง คือกิจกรรมที่ท่านต้องเสาะหา

กล่าวถึงสำหรับใครหลายคน ที่มานั่งรอญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย หรือว่าแฟนตัวดีให้มารับที่สถานีขนส่งอาเขต หลังจากนั่งรถกลับมาจากที่ไหนซักแห่ง ผมมีกิจกรรมมานำเสนอให้หายเบื่อกันไปพลางๆ ระหว่างรอครับ

ไม่ใช่การเข้าร้านอินเตอร์เน็ต ร้านนวดสปา ร้านอาหาร แต่มันคือการเดินแว่บไปเที่ยว ระหว่างรอใครบางคนที่กำลังขับรถมารับเรา

C360_2013-10-07-11-20-39-689

นู้นเลยครับ วัดกู่คำ ติดกับกับสถานีขนส่งอาเขต 3 เพียงแค่เดินฝ่าแดดฝ่าลมไปซักนิดตรงเข้าไปในวัด ท่านก็จะเกิดอาการร่มเย็นทางจิตใจ พอๆกันกับร่มเย็นทางกายไปในเวลาเดียวกัน

C360_2013-10-07-11-13-20-148

ในวัดแห่งมีศาสถานให้เดินชมกันเพลินตาเลยล่ะ ทั้งวิหาร อุโบสถ เจดีย์ ฯลฯ  โดยข้อมูลตามประวัติวัดบอกไว้ว่า วัดกู่คำสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1920 โดยไม่มีการบันทึกให้ทราบชัดเจนมากนัก นอกจากรอยดินสอที่บันทึก พ.ศ. การตั้งวัดไว้บนโฉนดที่ดินของวัด กับประวัติที่เล่าสืบทอดต่อกันมา

C360_2013-10-07-11-10-05-872

C360_2013-10-07-11-09-25-692

เดิม ณ ที่แห่งนี้ มีซากเจดีย์เก่าแก่ ที่เป็นซากกองอิฐปรักหักพังทับถมกันอยู่คล้ายกู่ หรือ เจดีย์ร้างครึ่งองค์ ที่มีขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก ซึ่งชาวบ้านพากันเรียกกันว่า “กู่”

C360_2013-10-07-11-16-05-890

C360_2013-10-07-11-18-05-839

ต่อมามีชาวจีนชื่อแดง หรือ ชื่อที่ทราบมาภายหลังที่จารึกไว้ในคัมภีร์ธรรมล้านนาว่า “หลวงขจัด ทัณฑนิกร” ได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันบูรณะองค์กู่ หรือ เจดีย์ให้เต็มองค์ขึ้น หลังจากนั้นได้นิมนต์พระสงฆ์มาอยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ และ พากันเรียกตามชื่อชาวจีนที่มาบูรณะว่า “วัดกู่แดง”

C360_2013-10-07-11-17-21-521

C360_2013-10-07-11-12-25-474

จากนั้น มีการก่อสร้างบูรณะถาวรวัตถุเพิ่มเติมอีกหลายครั้ง ชาวบ้านจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ควรเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ว่า “วัดกู่คำ” และ ได้ใช้ชื่อนี้เป็นต้นมา ในปี พ.ศ.2440 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตั้งเป็นวัดที่ถูกต้อง ขึ้นทะเบียนของกรมการศาสนาสังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย ให้ชื่อว่า”วัดกู่คำ” มาจวบจนกระทั่งทุกวันนี้

C360_2013-10-07-11-14-45-214

จากการเดินสำรวจดู ที่เตะตาผมมากสุดน่าจะเป็นพระวิหารวัดครับ เพราะจากลวดลายของสถาปัตยกรรม ถือว่างดงามยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่ทางวัดไม่เปิดให้เข้าไปนมัสการองค์พระประธานด้านใน

C360_2013-10-07-11-15-43-597

เอาล่ะ เมื่อทราบถึงวิธีแก้เซ็งในระหว่างรอคนแล้ว ใครจะหยิบเอาไปใช้ถือว่าไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมบอกคนมารับด้วยล่ะว่า มาเดินเที่ยวเล่นที่วัด เพราะประเดี๋ยวจะยุ่งและวุ่นจนหากันไม่เจอ ฮ่าๆๆ