![C360_2013-09-18-15-50-57-830](https://www.chiangmaitouring.com/wp-content/uploads/2013/09/C360_2013-09-18-15-50-57-830.jpg)
การจะเสาะหาเหตุผลอะไรซักอย่าง เพื่อทำความเข้าใจในชีวิต และสิ่งแวดล้อมรอบตัว คือกิจกรรมหลักที่ผมทำเป็นประจำในแต่ล่ะวันครับ
สังเกต ตั้งคำถาม ค้นหาคำตอบ วิเคราะห์ สรุป ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไร กับหลักการวิทยาศาสตร์
เหตุเกิด เพราะด้วยความผ่านไปผ่านมาแถววัดควรค่าม้าบ่อย เนื่องจากต้องแวะไปหาสหาย อันมีบ้านข้างเรือนจำหญิง ซึ่งโดนทุบทิ้งไปสร้างใหม่นอกเมืองกันแล้ว และด้วยเส้นทางในการลัดเลาะ ออกมายังเส้นนอกคูเมืองมันเลียบข้างติดกับวัดควรค่าม้า สายตาผมก็ย่อมสังเกตเป็นธรรมดาว่า วัดแห่งนี้มันแปลกดีนะ เพราะกำแพงรั้วมีแต่ม้าเต็มไปหมด
ผ่านไปมาบ่อยเข้า ถามเพื่อน เพื่อนก็ไม่รู้ ว่าทำไมวัดนี้มันมีแต่ม้า เพราะมันก็ไม่ใช่คนเชียงใหม่ ซึ่งก็ไม่ต่างจากเรา ฉะนั้นวันว่างในบรรยากาศฝนพร่ำ และเมฆครึ้มดำมากันจนน่ารำคาญ เลยถือโอกาสแว่บไปดูซักหน่อย ว่าข้างในมันมีอะไรน่าสนใจมั้ย นอกจากกำแพงของวัด
จากปากประตูทางเข้า เราจะเห็นม้าตัวใหญ่ๆ ตรงหน้าประตูยืนตอนรับกันอยู่ พอสับตีนเข้าไปด้านใน อ้าวฉิบหาย วัดกำลังอยู่ในช่วงของการบูรณพระวิหาร ฉะนั้น หมดสิทธิ์กับการได้ยลโฉมความงาม ส่วนศาสนสถานอย่างอื่น ก็มีพระอุโบสถ วางตัวอยู่ตรงฝั่งด้านหน้าพระวิหารกันนั้นแหละ ด้านหลังพระวิหารมีองค์เจดีย์ ซึ่งไอ้ผมก็ค้นหาข้อมูลมาให้ไม่ได้มีมีลักษณะอย่างไร เอาเป็นดูกันไปตามรูปภาพล่ะกัน
ตามประวัติที่ค้นมา บอกว่า วัดควรค่าม้า มีประวัติความเป็นมาไม่แน่ชัด ทราบแต่ว่าสร้างเมื่อ พ.ศ.2035 โดยคนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมา บอกแต่เดิมนั้น วัดควรค่าม้า มีชื่อว่า วัดคุณค่าม้า เพราะพื้นที่ส่วนนี้เป็นของคนเลี้ยงม้า สมัยก่อนใช้ม้าเป็นพาหนะค้าขาย ต่อมาม้าของแกได้ล้มตายลง ด้วยความอาลัยม้า แกเลยตัดสินใจ อุทิศที่แปลงนี้ให้เป็นวัด เพื่อความเหมาะสมกับคุณค่าม้า
พอรู้ประวัติเสร็จ ก็ถึงบางอ้อกันเลยทีเดียว มิน่าล่ะ ม้าถึงเต็มไปหมด ทั้งประตู และรั้วของวัด ไอ้ผมก็ยังคิดเลอะเทอะไปเรื่อยนะ ถ้าเกิดตอนนั้นเขาไม่เลี้ยงม้ากัน แต่ดันไปเลี้ยงแมวน้ำแทน คาดว่า แมวน้ำคงถูกประดิษฐานตามกำแพงวัด และประตูวัดกันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นอนุสรณ์ไว้อาลัยให้แก่แมวน้ำไปในตัวอีกด้วย
ว่าแต่ชาวบ้านเขาจะเรียกแมวน้ำไปทำไมกันว่ะ? นั่นซิครับ ไอ้นี้ก็พูดไปเรื่อย…
เอาล่ะ ใครอยากไปชมความแปลกประหลาดของวัดแห่งนี้ ที่โดดเด่นไปด้วยน้องม้าหลากหลายตัวตามกำแพงวัด ก็จัดไปเลย ที่วัดควรค่าม้า ติดกับคูเมืองด้านใน ในตำบลศรีภูมิ เที่ยวเสร็จ แวะไปกินข้าวซอยคุณยายต่อใกล้ๆ กับวัด จากนั้นจะไหลไปยังวัดราชมณเฑียร ซึ่งอยู่ติดกัน อันนั้นก็แล้วแต่ใครจะสะดวกในเวลาตัวเอง
จากวัดควรค่าม้า มาข้าวซอย จบลงตรงวัดราชมณเฑียร ไม่ลื่นเป็นปลาไหล ทำไม่ได้นะครับ