เชียงใหม่ จะบอกว่าเป็นเมืองแห่งนักดนตรีก็คงถูก เนื่องจากจังหวัดนี้มีนักดนตรีฝีมือเยี่ยมๆ อยู่เสมอ
เรื่องนี้สังเกตได้จากแต่ละเดือน จะมีงานคอนเสิร์ตของกลุ่มนักดนตรีอิสระจัดขึ้น เพื่อบำเรอหูคนฟังเฉพาะกลุ่มก้อน อีกทั้งยังเป็นช่องทางให้นักดนตรีได้มีโอกาสแสดงฝีไม้ลายมือกันบ้าง
เท่าที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานคอนเสิร์ตแนวนี้หลายครั้ง ซึ่งก็มีทั้งดนตรีสายร็อค อย่างแนวเมทัล พั้งก์ อินดี้ และล่าสุดนี้ก็ถึงคราวของงาน “กรั้นจ์ร็อค”
เอ่ยถึงดนตรีแนวกรั้นจ์ จัดเป็นแนวเพลงย่อยของอัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่ได้รับอิทธิพลจากฮาร์ดคอร์พัง, เฮฟวีเมทัล และ อินดี้ร็อก โดยกรั้นจ์นั้นเกิดขึ้นช่วงกลายทศวรรษที่ 80 โดยวงจากวอชิงตัน และบางส่วนของซีแอตเทิล
ลักษณะของดนตรี จะมีความดิบของเสียงริฟฟ์กีตาร์ แต่สอดแทรกด้วยเมโลดี้ติดหูของกรันจ์ร็อก ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเฮฟวี่เมทัลและพังก์ร็อก ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยเฉพาะไลน์กีตาร์แบบเฮฟวีเมทัลในช่วงยุคต้น 70 แต่ด้านเนื้อเพลงกลับได้รับอิทธิพลของพังก์ร็อกมาอย่างเต็มที่ ด้วยถ้อยคำเสียดสีสังคม รวมไปถึงความคิดที่เป็นอิสระที่ได้รับมาจากช่วงยุคต้น 80 ของอเมริกัน ฮาร์ดคอร์
ทั้งนี้ วงกรันจ์ร็อกในยุคแรก เช่น Green River, Mudhoney, Soundgarden จะหนักหน่วงกว่ากรันจ์ร็อกในยุคต่อมา อย่าง Nirvana ซึ่งความแตกต่างที่สังเกตได้อย่างชัดเจน คือเพลงของ Nirvana มีความชัดเจนในเรื่องของเมโลดี้ที่ติดหูมากกว่า จากนั้นต่อมากรันจ์ร็อกก็ได้เข้าสู่กระแสหลักกลางทศวรรษที่ 90
กลับไปที่งานคอนเสิร์ตกรั้นจ์ร็อค ที่จัดขึ้นในเชียงใหม่ที่ผมมีโอกาสได้ไปสัมผัส งานนี้ใช้ชื่อว่า Alive Grunge 2 จัดที่ร้าน Pentatonic Rock Bar เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2557 ซึ่งงานครั้งนี้ได้เกิดขึ้นจากกลุ่ม Facebook Nirvana Thailand และ Grunge Thailand
ในงานมีวงร็อคที่จะมาบำเรอหูคนฟังในสำเนียงเสียงกรั้นจ์ทั้งจากเชียงใหม่ และวงจากกรุงเทพฯ โดยรายชื่อวงก็ไล่ไปตั้งแต่ Peace Flower, Party Mosquito, Rock A Fellas, Gain, Project Mayhem, Overcast Sky, Anti Hero และ Revive 90 ’S
งานเริ่มสตาร์ทประมาณ 19.30 น. บรรยากาศโยรวมช่วงแรกๆ ถือว่าไม่คึกคักเท่าไหร่ ก่อนในเวลาประมาณ 21.00 น. จะมีชาวร็อคหลั่งไหลเข้ามาให้ความสนใจพอสมควร รวมทั้งบรรยากาศความมันส์กำลังได้ทีกันเลยทีเดียว
บทเพลงที่ขนมาคัฟเวอร์กันส่วนใหญ่ หลักๆ จะเป็นเพลงของ Nirvana กันในฐานะเจ้าพ่อดนตรีกรั้นจ์ ผู้ปลุกกระแสดนตรีแนวนี้จนดังเป็นพลุแตกในช่วงยุคทศวรรษที่ 90 ก่อนวงอื่นๆ จะพลอยได้รับความนิยมไปด้วย
นอกจากบทเพลงของ Nirvana แล้ว ที่เหลือก็หยิบเพลงของวงอื่นๆ มาคัฟเวอร์กันบ้างพอประปรายคนละเพลงสองเพลง อย่างงานของ Pearl Jam กับ Alice In Chains เป็นต้น จากนั้นพอดึกมาหน่อย เลยมีแซมด้วยแนวเมทัล เพื่ออรรถรสในการชมคอนเสิร์ต
Alive Grunge 2 จะว่าไปแล้วงานนี้ความเป็นกรั้นจ์ร็อคยังไปไม่สุด เพราะยังขาดเพลงอีกหลายวงที่ไม่ได้หยิบมาเล่น ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้ว กรั้นจ์ไม่ได้มีแต่ Nirvana แต่สำหรับเรื่องบรรยากาศในงานตอนคอนเสิร์ต ถือว่าสอบผ่านทุกประการสำหรับชาวร็อคโดยแท้จริง